เมื่อนึกถึงโรงเรียนอนุบาล สิ่งแรกที่คิดคือ อยากให้ทุกพื้นที่เอื้อต่อการเรียนรู้ จากประสบการณ์ในการศึกษาระดับปริญญาโทและทำงานเป็นสถาปนิกและภูมิสถาปนิกที่เมืองเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย มีโอกาศได้ร่วมออกแบบศูนย์เรียนรู้เด็กเล็กและโรงเรียนประถมศึกษาหลายแห่งทั้งของภาครัฐและภาคเอกชนที่นั่น ทำให้สังเกตเห็นพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กเล็ก การเรียนการสอนและกิจกรรมต่างๆในแต่ละวันที่เกิดขึ้นตั้งแต่ผู้ปกครองมาส่งจนรับกลับบ้าน กาารได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณครูใหญ่ คุณครูประจำชั้น ตลอดจนผู้ปกครอง ทำให้ได้เห็นว่าการออกแบบสถาปัตยกรรมต่างๆในโรงเรียนมีผลอย่างมากกับพัฒนาการของเด็ก และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของโรงเรียน ครู เด็ก รวมถึงผู้ปกครองด้วย

ณ ที่แห่งนี้ เด็กๆจะได้เรียนรู้และฝึกฝนไปพร้อมกันกับผู้ปกครองตั้งแต่ก้าวแรกของการมาโรงเรียน การเข้าใจพื้นที่ส่วนรวมที่เป็นพื้นที่แบ่งปันและพูดคุยระหว่างผู้ปกครองและเด็กๆ กับคุณครูและพื้นที่ส่วนเฉพาะของเด็กๆ ที่สามารถเรียนรู้ได้ทั้งในและนอกห้องเรียนจากการทำกิจกรรมต่างๆ ได้รับแสงแดดและมองเห็นธรรมชาติภายนอกห้องเรียนทั้งสองฝั่ง รวมถึงคุณภาพอากาศที่มีการตรวจวัดและควบคุม เพราะคุณภาพของอากาศที่ดีมีผลต่อการพัฒนาสมองและการเรียนรู้ อีกทั้งความใส่ใจในการเลือกใช้วัสดุตกแต่งทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนที่ปลอดภัยต่อสุขภาวะของเด็กเล็กและคุณครู

เมื่อกลับมาประเทศไทยจึงมีความตั้งใจที่จะนำองค์ความรู้ที่มีมาพัฒนารูปแบบของโรงเรียนอนุบาลในประเทศไทยด้วยประสบการณ์ที่มีและความเข้าใจในบริบทของคนไทย จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างโรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ดแห่งนี้ที่ซึ่งมีความเข้าใจและใส่ใจในทุกองค์ประกอบเพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้และส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพที่ไม่สิ้นสุดของเด็กในชั้นอนุบาล